การเลือกซื้อคาร์ซีทนอกจาก คุณสมบัติ ความสะดวกสบาย ความสวยงาม ที่ต้องคำนึงถึง ยังต้องคำนึงถึงความปลอดภัยว่าเพียงพอที่จะช่วยปกป้องลูกน้อย สิ่งที่สามารถยืนยันได้ถึงความปลอดภัยนั้นคือ คาร์ซีทตัวนั้นได้รับการทดสอบผ่านมาตรฐานทดสอบ และรับรองว่าปลอดภัยหรือไม่ เพื่อเป็นการรับประกันว่าได้คาร์ซีทได้ผ่านการทดสอบที่ได้มาตรฐานมาแล้ว มาตรฐานสากลของคาร์ซีทที่เป็นที่รู้จักกันคือ
ECE R44/04 Child Restraint Systems (มาตรฐานของสหภาพยุโรป)
มาตรฐาน ECE R44/04 คืออะไร?
คาร์ซีททุกตัวต้องได้รับการรับรองตามมาตรฐาน ECE R44/04 ว่ามีความปลอดภัยและสามารถปกป้องเด็กในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ โดยกฎข้อบังคับนี้ได้เริ่มต้นใช้เมื่อปี พ.ศ. 2548 ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐาน ECE R44/04 โรงงานผู้ผลิตคาร์ซีทต้องนำผลิตภัณฑ์ของตนเข้ารับการทดสอบความแข็งแรง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าคาร์ซีทแต่ละตัวถูกออกแบบมาให้มีความปลอดภัยอย่างแท้จริง
นอกจากมาตรฐาน ECE R44 / 04 ที่คุณพ่อคุณแม่ใช้เป็นปัจจัยในการเลือกซื้อคาร์ซีทแล้ว การเลือกคาร์ซีทนั้นยังต้องมีความเหมาะสมกับน้ำหนักและส่วนสูงของเด็กอีกด้วย และต้องได้รับการติดตั้งอย่างถูกต้องตามคำแนะนำของผู้ผลิตแต่ละราย โดยสามารถแบ่งกลุ่มของน้ำหนักเด็กออกเป็น 3 กลุ่ม
Group | Weight (KG) | Position |
Group 0+ | 0-13 | หันหน้าเข้าหาจากเบาะ (Rearward Facing) |
Group I | 9-18 | หันหน้าออกจากเบาะ (Forward Facing) |
Group II/III | 18-36 | หันหน้าออกจากเบาะ (Forward Facing) |
คาร์ซีทที่ผ่านมาตรฐานการทดสอบและได้รับมาตรฐาน ECE R44 / 04 จะมีป้ายสีส้ม ซึ่งรวมถึงหมายเลขใบอนุญาต ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตามประเภทการอนุมัติ

ตัวอย่างมาตรฐาน ECE R44 / 04 ที่ติดอยู่บนคาร์ซีท SWEET ANGLE

ที่มา: ailebebethailand
รายชื่อประเทศที่ทำการทดสอบและออกหนังสือรับรอง
มาตรฐาน ECE R44 / 04 สามารถแบ่งประเภทได้ดังนี้
1.Universal (สากล) หมายถึง คาร์ซีทสามารถใช้ได้กับรถยนต์ทุกคันที่ผลิตตามมาตรฐานสากล
2.Semi-Universal (กึ่งสากล) หมายถึง คาร์ซีทจะมีเครื่องหมายกึ่งสากลกำกับอยู่ ในกรณีที่คุณสมบัติบางประการไม่พอดีกับรถยนต์
3.Vehicle Specific Approval (รถยนต์เฉพาะรุ่นที่ได้รับการอนุมัติ) หมายถึง คาร์ซีทสามารถใช้ได้เฉพาะกับรถยนต์บางรุ่นเท่านั้น โดยสามารถดูรายการได้ที่เว็บไซต์ของโรงงานผู้ผลิต